อันดับแรกเลยคือ ความกลัว ซึ่งเป็นกันได้ทุกคนนั่นแหละครับ
เรื่องก็ไม่มีอะไรมากนะครับ แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์เล็กๆให้เผื่อคนที่เจอกับปัญหาเดียวกับผมจะได้มีทางเลือกอื่นๆบ้าง
เริ่มเลยนะครับ
ตั้งแต่ผมเรียนจบ ช่วงวิกฤติเศรษฐกิจพอดีคือ ปี 2544 จบออกมาไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ ผลปรากฏว่าพอจะมีคนรู้จักบ้างเลยได้ทำงานเป็นพนักงานชั่วคราวของไปรษณีย์รายได้รายวันแค่ 200 บาทแต่ก็ต้องทำเพราะไม่มีงานจะทำ ผมก็ผ่านมาได้และได้ประสบการณ์คือ การพูดคุยกับคน และการสังเกตุคน อันไหนควรพูดอันไหนไม่ควรพูด เจอนักธุรกิจมากหน้าหลายตา เรื่องไม่เคยรู้ก็ได้รู้นับว่าเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามากครับ หลังจากนั้นอีก 2 ปีพอเศรษฐกิจเริ่มฟื้นก็ได้มาทำงานในโรงงานแถวสมุทรปราการ 5 ปีและไปต่อระยองอีก 3 ปีประสบการณ์ที่ได้รับคือ การที่เรารู้ภาษาอังกฤษนับว่ามีประโยชน์มาก เพราะมันจะทำให้เราเป็นที่รู้จักสำหรับผู้บริหารที่เป็นชาวต่างชาติเพราะผลสุดท้ายปลายปากกาโบนัส เงินเดือนขึ้น ก็มาจากพวกท่านเหล่านั้นนั่นเอง
สรุปคือ คุณต้องมีตัวตนไม่อย่างนั้นคุณก็เป็นแค่เพียงอากาศ พักหนึ่งพอผมเริ่มมีแฟนแต่งงานและมีลูกก็ได้ย้ายกลับมาหาความวุ่นวายในเมืองหลวงอีกครั้ง แต่เหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความคิดที่ต้องการจะพลิกชีวิตคือ แม่ประสบอุบัติเหตุ ด้วยวิถีชีิวิตของชาวต่างจังหวัดคือหนักเอาเบาสู้ไม่กลัวงานหนัก แม่ผมท่านก็อยากทำงานจึงไปเป็นแม่บ้านอยู่ ม. แห่งหนึ่งในขณะที่ผมมีภาระค่าใช้จ่าย คือ ลูก บ้าน และรถครบสูตร แม่โดนมอร์เตอร์ไซด์ชน ชนิดที่เรียกได้ว่า คนขายของแถวไหนแกบอกไม่รอดแน่ๆ พอผมทราบข่าวมันทำให้ผมตกใจเป็นอย่างมากแต่ที่ทำได้ก็คือ ใช้สิทธิ์ประกันสังคมและ พรบ.ผู้ประสบภัยทางรถ ในการรักษาจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น มันทำให้ผมคิดได้ว่า ถ้าเราไม่รวย เหตุการณ์เช่นนี้มันต้องเกิดขึ้นอีก และถ้าแม่เป็นหนักกว่านี้ และค่าเทอมลูกที่มันขึ้นทุกปี จะมีปัญญายังไง ในใจมันก็พลันแล่นความคิดไปเร็วกว่าเสียง คำตอบเดียวคือ เราต้องรวย รวย รวย เท่านั้น มีคำกล่าวที่ว่า "คนเก่งเรียนรู้ด้วยตนเอง คนฉลาดเรียนรู้จากคนเก่ง" ผมเลยเลือกอย่างหลัง พยายามค้นคว้าอ่านหนังสือทุกเล่ม จากผู้ประสบความสำเร็จทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงหนังสือปลุกไฟ ปลุกพลังในใจต่างๆ จากหลายๆผู้แต่ง
สรุปคือ คนรวยส่วนใหญ่มักรวยมาจากอสังหาริมทรัพย์ โดยมีวิธีการต่างๆ ที่เขาได้บรรยายไว้จากประสบการณ์ของเขามากมาย ทำให้ผมมีโลกที่เปิดกว้างเป็นอย่างมาก ที่เหลือคือทุน ผมก็เลยพยายามขายทรัพย์สิน และสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้นำมาเป็นทุน และต้องการจะเริ่มอาชีพใหม่ในเดือนหน้านี้คือ นายหน้าอสังหาริมทรัพย์และรถบ้านมือสอง และช่วยแนะนำการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ผมก็จะต้องพยายามทำมันให้สำเร็จให้จงได้ ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ ถ้าทำสำเร็จมันจะเป็นความภูมิใจของผมที่จะจำไปจนวันตาย ว่าเราตัดสินใจไม่ผิดพลาด คนส่วนใหญ่ไม่รู้เพราะอ่านแต่หนังสือ บางครั้งไม่ได้อ่านแต่ไปจำคนอื่นมา คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด เหมือนกับมีคนบอกคุณว่า ผีมีจริงหรือไม่ ไม่มีใครให้คำตอบคุณได้เท่ากับตัวคุณเองครับ
สิ่งหนึ่งที่นายหน้าทุกคนต้องมีคือ ความสัมพันธ์ และเครือข่าย หรือพวกพ้องนั่นเองครับ ซึ่งผมก็มีน่าจะหมดทุกอย่างแล้วที่เหลือก็แค่ขจัดความกลัวและลงมือทำ ศึกษาจากผู้รู้จริงในบางเรื่องที่เราไม่เข้าใจและเรียนรู้จากประสบการณ์จริง เหมือนกับคุณเป็นนักฟุตบอลที่เก่งมาก แต่พอได้มาเล่นบอลบนสนามคนดู 4 หมื่นคนครั้งแรก คุณต้องมีความกล้าและความมั่นใจเท่านั้นครับ
นี่คือเว็บไซด์ที่ผมทำ www.nainah.com/story1.php ทุกอย่างกำลังเริ่มไปยังเส้นทางของมัน ณ ตอนนี้มันยังไม่สมบูรณ์ ผมจะทยอยอัพเดตข้ออมูลให้ทุกคนได้อ่านกัน ถึงแม้ไม่มีใครอ่าน ผมก็จะอ่านมันทุกครั้งถ้ามีโอกาส จะได้ไม่พลาดและทบทวนตัวเองในเรื่องต่างๆด้วยครับ.
เช่น มีบ้านอยากขายบ้าน ขายไม่ออกทำไง ติดป้ายก็แล้ว ลงเว็บก็แล้วยังขายไม่ได้, อยากลงทุนในบ้านจะเริ่มยังไง, ผ่อนบ้านยังไงไม่เจ็บตัว, ผู้รับเหมาทิ้งงาน, ที่ตาบอดขายไม่ออกวันดีคืนดีขายได้รับเงินกระเป๋าตุงกุงเกง อีกมากมายหลายๆเรื่อง จะมาเล่าให้ฟังครับโปรดติดตาม
*ตราบใดถ้าธนาคาร ยังมีการปล่อยสินเชื่อบ้าน ทุกคนก็มีโอกาสทำเงินจากบ้านได้ครับ โปรดติดตามได้ครับ*
คุณทำงานเดิมๆ แบบเดิมๆ ทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีวันรวยแต่ก็ยังทำเพราะอะไรครับ?
เรื่องก็ไม่มีอะไรมากนะครับ แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์เล็กๆให้เผื่อคนที่เจอกับปัญหาเดียวกับผมจะได้มีทางเลือกอื่นๆบ้าง
เริ่มเลยนะครับ
ตั้งแต่ผมเรียนจบ ช่วงวิกฤติเศรษฐกิจพอดีคือ ปี 2544 จบออกมาไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ ผลปรากฏว่าพอจะมีคนรู้จักบ้างเลยได้ทำงานเป็นพนักงานชั่วคราวของไปรษณีย์รายได้รายวันแค่ 200 บาทแต่ก็ต้องทำเพราะไม่มีงานจะทำ ผมก็ผ่านมาได้และได้ประสบการณ์คือ การพูดคุยกับคน และการสังเกตุคน อันไหนควรพูดอันไหนไม่ควรพูด เจอนักธุรกิจมากหน้าหลายตา เรื่องไม่เคยรู้ก็ได้รู้นับว่าเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามากครับ หลังจากนั้นอีก 2 ปีพอเศรษฐกิจเริ่มฟื้นก็ได้มาทำงานในโรงงานแถวสมุทรปราการ 5 ปีและไปต่อระยองอีก 3 ปีประสบการณ์ที่ได้รับคือ การที่เรารู้ภาษาอังกฤษนับว่ามีประโยชน์มาก เพราะมันจะทำให้เราเป็นที่รู้จักสำหรับผู้บริหารที่เป็นชาวต่างชาติเพราะผลสุดท้ายปลายปากกาโบนัส เงินเดือนขึ้น ก็มาจากพวกท่านเหล่านั้นนั่นเอง
สรุปคือ คุณต้องมีตัวตนไม่อย่างนั้นคุณก็เป็นแค่เพียงอากาศ พักหนึ่งพอผมเริ่มมีแฟนแต่งงานและมีลูกก็ได้ย้ายกลับมาหาความวุ่นวายในเมืองหลวงอีกครั้ง แต่เหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความคิดที่ต้องการจะพลิกชีวิตคือ แม่ประสบอุบัติเหตุ ด้วยวิถีชีิวิตของชาวต่างจังหวัดคือหนักเอาเบาสู้ไม่กลัวงานหนัก แม่ผมท่านก็อยากทำงานจึงไปเป็นแม่บ้านอยู่ ม. แห่งหนึ่งในขณะที่ผมมีภาระค่าใช้จ่าย คือ ลูก บ้าน และรถครบสูตร แม่โดนมอร์เตอร์ไซด์ชน ชนิดที่เรียกได้ว่า คนขายของแถวไหนแกบอกไม่รอดแน่ๆ พอผมทราบข่าวมันทำให้ผมตกใจเป็นอย่างมากแต่ที่ทำได้ก็คือ ใช้สิทธิ์ประกันสังคมและ พรบ.ผู้ประสบภัยทางรถ ในการรักษาจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น มันทำให้ผมคิดได้ว่า ถ้าเราไม่รวย เหตุการณ์เช่นนี้มันต้องเกิดขึ้นอีก และถ้าแม่เป็นหนักกว่านี้ และค่าเทอมลูกที่มันขึ้นทุกปี จะมีปัญญายังไง ในใจมันก็พลันแล่นความคิดไปเร็วกว่าเสียง คำตอบเดียวคือ เราต้องรวย รวย รวย เท่านั้น มีคำกล่าวที่ว่า "คนเก่งเรียนรู้ด้วยตนเอง คนฉลาดเรียนรู้จากคนเก่ง" ผมเลยเลือกอย่างหลัง พยายามค้นคว้าอ่านหนังสือทุกเล่ม จากผู้ประสบความสำเร็จทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงหนังสือปลุกไฟ ปลุกพลังในใจต่างๆ จากหลายๆผู้แต่ง
สรุปคือ คนรวยส่วนใหญ่มักรวยมาจากอสังหาริมทรัพย์ โดยมีวิธีการต่างๆ ที่เขาได้บรรยายไว้จากประสบการณ์ของเขามากมาย ทำให้ผมมีโลกที่เปิดกว้างเป็นอย่างมาก ที่เหลือคือทุน ผมก็เลยพยายามขายทรัพย์สิน และสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้นำมาเป็นทุน และต้องการจะเริ่มอาชีพใหม่ในเดือนหน้านี้คือ นายหน้าอสังหาริมทรัพย์และรถบ้านมือสอง และช่วยแนะนำการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทุกชนิด ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ผมก็จะต้องพยายามทำมันให้สำเร็จให้จงได้ ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ ถ้าทำสำเร็จมันจะเป็นความภูมิใจของผมที่จะจำไปจนวันตาย ว่าเราตัดสินใจไม่ผิดพลาด คนส่วนใหญ่ไม่รู้เพราะอ่านแต่หนังสือ บางครั้งไม่ได้อ่านแต่ไปจำคนอื่นมา คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด เหมือนกับมีคนบอกคุณว่า ผีมีจริงหรือไม่ ไม่มีใครให้คำตอบคุณได้เท่ากับตัวคุณเองครับ
สิ่งหนึ่งที่นายหน้าทุกคนต้องมีคือ ความสัมพันธ์ และเครือข่าย หรือพวกพ้องนั่นเองครับ ซึ่งผมก็มีน่าจะหมดทุกอย่างแล้วที่เหลือก็แค่ขจัดความกลัวและลงมือทำ ศึกษาจากผู้รู้จริงในบางเรื่องที่เราไม่เข้าใจและเรียนรู้จากประสบการณ์จริง เหมือนกับคุณเป็นนักฟุตบอลที่เก่งมาก แต่พอได้มาเล่นบอลบนสนามคนดู 4 หมื่นคนครั้งแรก คุณต้องมีความกล้าและความมั่นใจเท่านั้นครับ
นี่คือเว็บไซด์ที่ผมทำ www.nainah.com/story1.php ทุกอย่างกำลังเริ่มไปยังเส้นทางของมัน ณ ตอนนี้มันยังไม่สมบูรณ์ ผมจะทยอยอัพเดตข้ออมูลให้ทุกคนได้อ่านกัน ถึงแม้ไม่มีใครอ่าน ผมก็จะอ่านมันทุกครั้งถ้ามีโอกาส จะได้ไม่พลาดและทบทวนตัวเองในเรื่องต่างๆด้วยครับ.
เช่น มีบ้านอยากขายบ้าน ขายไม่ออกทำไง ติดป้ายก็แล้ว ลงเว็บก็แล้วยังขายไม่ได้, อยากลงทุนในบ้านจะเริ่มยังไง, ผ่อนบ้านยังไงไม่เจ็บตัว, ผู้รับเหมาทิ้งงาน, ที่ตาบอดขายไม่ออกวันดีคืนดีขายได้รับเงินกระเป๋าตุงกุงเกง อีกมากมายหลายๆเรื่อง จะมาเล่าให้ฟังครับโปรดติดตาม
*ตราบใดถ้าธนาคาร ยังมีการปล่อยสินเชื่อบ้าน ทุกคนก็มีโอกาสทำเงินจากบ้านได้ครับ โปรดติดตามได้ครับ*